สวัสดีชาวจุกจิ๊กจัง วันนี้ผมจะมาแบ่งปันประสบการณ์ 6 วันกับการขับแกร็บ ฟู้ด ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และได้ประสบการณ์อะไรใหม่ๆบ้าง

ก่อนที่เราจะเริ่มขับแกร็บ ฟู้ด สิ่งที่เราจะต้องมีก็คือ
1.รถจักรยานยนต์
2.หมวกกันน็อค
3.กระเป๋าสำหรับส่งอาหารของแกร็บ
4.หน้ากากอนามัย
5.เงินสดสพกรับทอนเงิน
6.เงินในบัญชีสำหรับเติมเครดิตเพื่อรับงานในแอพ Grab Drive
หลังจากที่ได้เตรียมทุกอย่างครบแล้ว ก็มากดปุ่มเริ่มรับงานกันได้เลยดีกว่า

หลังจากกดปุ่มเปิดรับงานกันแล้ว ก็ไม่ต้องทำอะไร แค่นั่งรอออเดอร์เด้งครับ

พอมีออเดอร์เข้ามาแล้ว ให้เรากดรับงานให้ทันก่อนเวลาจะหมด หรือหากไม่อยากจะพลาดโอกาสในการรับงาน ให้เปิดรับงานอัตโนมัติเอาไว้เลยก็ได้ครับ
หากมีงานเข้ามาก็จะไม่ต้องกังวลว่าจะกดรับงานไม่ทัน
พอมีงานเข้ามาก็ทำตามขั้นตอนตามที่แอพแจ้งมาได้เลยครับ
ส่วนขั้นตอนการถ่ายรูปหลังจากรับอาหารมาแล้ว ในกรณีนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1.ร้านค้าแนะนำ ให้ถ่ายรูปหน้าเรา พร้อมกับใบเสร็จที่ทางร้านค้าออกให้
2.ร้านค้าทั่วไป ให้ถ่ายรูปหน้าเรา พร้อมกับอาหาร
*ช่วงนี้ โควิดระบาด ทางแกร็บจึงเข้มงวดให้ใส่หน้ากากอนามัยก่อนถ่ายรูปส่งให้ทางแกร็บนะครับ

หลังจาก 5 วันแรกที่ผมเปิดรับงานอยู่ที่บ้าน รายได้ในแต่ละวันก็ 15-119 บาท แต่ในวันที่ 6 ผมลองนั่งอยู่ร้าน KFC ร้านเดียว ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00น.
ผลสรุป วันที่ 6 หลังจากที่ผมลองเปิดรับงานทั้งวันในต่างจังหวัดแล้ว สรุปว่าได้เงินค่าขับ 314 บาท+ค่าอินเซ็นทีฟ 24 บาท ครับ

ผมเริ่มเปิดรับงานตั้งแต่ 09.00-20.00น. หลังจากหักค่าธรรมเนียมแกร็บไปแล้ว งานละ 2 บาท 10 งาน ก็ 20 บาท
ดังนั้น ผมจึงสรุปได้ว่าจริงๆแล้วการไม่เลือกงาน ก็ไม่ได้ทำให้เรายากจน อาจจะดูไม่เยอะสำหรับใครหลายคน แต่ยิ่งช่วงโควิดระบาดแบบนี้ ก็ทำให้เรามีเงินกิน เงินใช้จ่ายในแต่ละวัน อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำให้เราอดตาย หรืออย่างน้อยก็ไม่ได้ทำให้เรานำเงินเก็บออกมาใช้จ่าย หากมีงานอื่นที่ดีกว่า ก็ปิดรับงานแล้วไปทำงานอื่นก็ได้
คนเราไม่ควรจะมีรายได้ทางเดียว หรือไม่ควรจะมีงานเดียว เพราะหากเกิดอะไรขึ้น จะทำให้ชีวิตเราเสี่ยงไปด้วย
จริงๅแล้ว ไม่ได้มีแค่ Grab นะครับ มีหลายแอพครับ เช่น Gojek, Food Panda, Lalamove เป็นต้น